หลังจากที่คราวก่อนเราพาเที่ยวที่วัดถ้ำพระมารอบนึงแล้ว (สามารถย้อนกลับไปอ่านได้ในวัดถ้ำพระ) คราวนั้นเราไม่ได้เดินไปเที่ยวด้านหลัง เลยไม่ได้พาชมถ้ำปู่ฤาษีและพระกลางน้ำ มาคราวนี้เรามีโอกาสได้ไปที่ถ้ำพระอีกครั้งหนึ่ง
ไปคราวนี้มันช่างต่างจากคราวก่อนมากเหลือเกิน ไม่มีถังน้ำวางเต็มถ้ำ และไม่มีกลิ่นขี้ค้างคาวเหมือนคราวก่อนเลย ไปคราวนี้ในถ้ำสะอาดมาก หลังจากสักการะในถ้ำแล้วก็ได้โอกาสเดินไปเที่ยวชมด้านหลังถ้ำ ซึ่งจะมีถ้ำปู่ฤาษี และพระกลางน้ำให้สักการะกันด้วย
วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2556
สถานปฏิบัติธรรมภิรมย์ธรรม
สถานที่ที่เราจะไปในวันนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากเว็บ www.chiangraifocus.com อีกแล้ว ชื่อว่าสถานปฏิบัติธรรมภิรมย์ธรรม ก็เลยมีความอยากรู้ว่าเป็นอย่างไร เผื่อจะได้มาปฏิบัติในคราวหน้า
ที่นี่จะอยู่ทางเดียวกับวัดห้วยปลากั้ง ถ้าไปไม่ถูกก็ถามหาวัดห้วยปลากั้งได้เลย แต่ที่นี่จะอยู่เลยเข้าไปอีกที่ซอยห้วยปลากั้ง 20 พอไปถึงหน้าปากซอยจะมีป้ายบอกให้เลี้ยวเข้าไป
ตอนเราเลี้ยวเข้าไปก็ขับไปเรื่อยๆๆๆๆๆๆ เรียกได้ว่าหลงทาง เพราะเลยเข้าไปไม่รู้กี่กิโลเมตร และหาทางเข้าก็ไม่เจอ เลยตัดสินใจกลับกัน แต่พอตอนจะออกมาถึงปากซอยห้วยปลากั้ง 20 ก็บังเอิญเหลียวไปเจอตู้ไปรษณีย์สีเขียวหน้าปากซอยเล็กๆ อีกที ก็เลยยังได้มีโอกาสเข้าไปเจอสถานปฏิบัติธรรมอยู่
พอเข้าไปในซอยเล็กนั้น ถึงจะได้พบกับป้ายของสถานที่ที่เป็นป้ายไม้ใหญ่ แต่เข้าไปแล้วไม่เจอใครอยู่ก็เลยเดินชมรอบๆ แล้วก็กลับ
ที่นี่จะอยู่ทางเดียวกับวัดห้วยปลากั้ง ถ้าไปไม่ถูกก็ถามหาวัดห้วยปลากั้งได้เลย แต่ที่นี่จะอยู่เลยเข้าไปอีกที่ซอยห้วยปลากั้ง 20 พอไปถึงหน้าปากซอยจะมีป้ายบอกให้เลี้ยวเข้าไป
ตอนเราเลี้ยวเข้าไปก็ขับไปเรื่อยๆๆๆๆๆๆ เรียกได้ว่าหลงทาง เพราะเลยเข้าไปไม่รู้กี่กิโลเมตร และหาทางเข้าก็ไม่เจอ เลยตัดสินใจกลับกัน แต่พอตอนจะออกมาถึงปากซอยห้วยปลากั้ง 20 ก็บังเอิญเหลียวไปเจอตู้ไปรษณีย์สีเขียวหน้าปากซอยเล็กๆ อีกที ก็เลยยังได้มีโอกาสเข้าไปเจอสถานปฏิบัติธรรมอยู่
พอเข้าไปในซอยเล็กนั้น ถึงจะได้พบกับป้ายของสถานที่ที่เป็นป้ายไม้ใหญ่ แต่เข้าไปแล้วไม่เจอใครอยู่ก็เลยเดินชมรอบๆ แล้วก็กลับ
วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2556
พุทธอุทยานดอยอินทรีย์
วันหยุดสงกรานต์ได้มีโอกาสมาปฏิบัติธรรมที่พุทธอุทยานดอยอินทรีย์ ซึ่งก่อนหน้าที่จะมาปฏิบัติธรรมนี้เราก็ได้มาสำรวจสถานที่กันก่อนแล้ว เพราะได้ยินมาว่าทางขึ้นเขาชันมาก ถ้าขับรถไม่แข็งพอขึ้นไม่ได้แน่ๆ พอเราได้ยินแบบนั้นก็จินตนาการไปแสนกลว่าเราคงขึ้นไม่ได้แน่นอน แต่พอได้เดินทางมาดูด้วยตัวเองก็คิดว่ารถเกียร์ออโต้น่าจะขึ้นได้สบาย แล้วก็ขึ้นไปได้สบายจริงๆ ใช้เกียร์ต่ำขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่รีบร้อนก็ไปถึงจนได้ เค้าถึงบอกว่าสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นจริงๆ
ใครที่อยากมาเยี่ยมชมที่ พุทธอุทยานดอยอินทรีย์ ให้เริ่มเดินทางจากแยกเด่นห้า หากไม่รู้จักให้ถามคนในพื้นที่เอานะจ๊ะ :D พอเจอแยกเด่นห้าแล้วก็ให้ไปทางไร่แม่ฟ้าหลวง ผ่านหน้าไร่แม่ฟ้าหลวง แล้วตรงไปตามถนนหลักเรื่อยๆๆๆๆ ไปอีกหลายกิโลเมตรพอสมควร ระหว่างทางสังเกตุได้ง่ายๆ คือธงสีเขียวที่มีพุทธพจน์ติดอยู่ตามเสาไฟฟ้า ตามทางไปเรื่อยๆ เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปธงมาให้ดู จะได้ตามกันได้ง่ายขึ้น
ระหว่างทางที่ขึ้นไปบนวัดจะพบกับพระพุทธรูปปางต่างๆ ประดิษฐานอยู่ จนถึงบริเวณวัดเลย
ที่พักบนวัดมีจัดไว้ให้หลายหลัง มีห้องน้ำในตัวอาคาร ในเรื่องของการปฏิบัติจะมี 3 รอบ คือ รอบเช้าหลังทำวัตรเช้า รอบบ่าย และรอบเย็นหลังทำวัตรเย็น การทานอาหารมี 1 มื้อในช่วง 9.30 น. หลังจากที่พระฉันอาหารที่บิณฑบาตรแล้ว
ใครที่อยากมาเยี่ยมชมที่ พุทธอุทยานดอยอินทรีย์ ให้เริ่มเดินทางจากแยกเด่นห้า หากไม่รู้จักให้ถามคนในพื้นที่เอานะจ๊ะ :D พอเจอแยกเด่นห้าแล้วก็ให้ไปทางไร่แม่ฟ้าหลวง ผ่านหน้าไร่แม่ฟ้าหลวง แล้วตรงไปตามถนนหลักเรื่อยๆๆๆๆ ไปอีกหลายกิโลเมตรพอสมควร ระหว่างทางสังเกตุได้ง่ายๆ คือธงสีเขียวที่มีพุทธพจน์ติดอยู่ตามเสาไฟฟ้า ตามทางไปเรื่อยๆ เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปธงมาให้ดู จะได้ตามกันได้ง่ายขึ้น
ระหว่างทางที่ขึ้นไปบนวัดจะพบกับพระพุทธรูปปางต่างๆ ประดิษฐานอยู่ จนถึงบริเวณวัดเลย
ที่พักบนวัดมีจัดไว้ให้หลายหลัง มีห้องน้ำในตัวอาคาร ในเรื่องของการปฏิบัติจะมี 3 รอบ คือ รอบเช้าหลังทำวัตรเช้า รอบบ่าย และรอบเย็นหลังทำวัตรเย็น การทานอาหารมี 1 มื้อในช่วง 9.30 น. หลังจากที่พระฉันอาหารที่บิณฑบาตรแล้ว
วันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2556
วัดพระแก้ว
วัดพระแก้วจะอยู่ตรงข้ามกับโรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค ถ้ามาถึงเชียงรายแล้วอยากมาเที่ยววัดนี้สามารถจอดถามทางได้เลย เพราะไม่มีใครที่ไม่รู้จัก
ในวัดดูสะอาดเรียบร้อย กว้างขวาง
นอกจากนั้นยังมีพิพิธภัณฑ์อยู่ภายในวัดอีกด้วย
สำหรับวัดนี้ไม่ขอพูดอะไรมาก เอาเป็นว่าถ้ามาเที่ยวเชียงรายแล้วไม่ได้แวะสักการะพระแก้วมรกตที่วัดนี้ถือว่ามาไม่ถึงจังหวัดเชียงรายละกัน
ในวัดดูสะอาดเรียบร้อย กว้างขวาง
นอกจากนั้นยังมีพิพิธภัณฑ์อยู่ภายในวัดอีกด้วย
สำหรับวัดนี้ไม่ขอพูดอะไรมาก เอาเป็นว่าถ้ามาเที่ยวเชียงรายแล้วไม่ได้แวะสักการะพระแก้วมรกตที่วัดนี้ถือว่ามาไม่ถึงจังหวัดเชียงรายละกัน
วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2556
ถ้ำตุ๊ปู่
หลังจากเห็นข้อความที่บอกไว้ในเว็บไซต์ www.chiangraifocus.com ว่าตอนนี้ถ้ำตุ๊ปู่ต้องการความช่วยเหลือ เราก็เลยรวบรวมปัจจัยจากเพื่อนกัลยาณมิตรเพื่อนำไปถวายที่ถ้ำนี้
เราเริ่มเดินทางจากห้าแยกพ่อขุนมังราย ออกนอกเมืองไปทางอำเภอแม่สาย พอข้ามสะพานแม่น้ำกกก็เลี้ยวซ้ายตรง 4 แยกที่มีร้านของฝากอยู่ตรงหัวมุม เลี้ยวซ้ายแล้วตรงไปเรื่อยๆ จะผ่านตลาดบ้านใหม่ ไปเรื่อยๆ จนถึง 3 แยกด้านในก็เลี้ยวซ้าย ไปอีกไม่เกิน 1 กิโลเมตรจะเจอ 4 แยกบริเวณตลาดเล็ก ให้เลี้ยวขวา ซึ่งถ้ามาจากทางที่บอกนี้จะมองไม่เห็นป้ายบอกทางเข้าถ้ำ เพราะป้ายติดไว้บอกกับทางที่สวนมา
หลังจากเลี้ยวเข้ามาทางถ้ำแล้วก็เข้าไปอีกซัก 2 กิโลเมตร ถึงจะเจอถ้ำตุ๊ปู่ มีหลวงพ่อจำวัดอยู่รูปเดียว หลวงพ่อรูปนี้เป็นอัมพฤกษ์มาตั้งแต่ปี 2551 เพิ่งจะเริ่มมาฟื้นตัวเมื่อไม่กี่ปีมานี้ หลังจากที่เราถวายปัจจัยแล้วเราก็ขอหลวงพ่อเดินขึ้นไปชมบนถ้ำ ทางขึ้นถ้ำค่อนข้างชัน แต่ไม่สูงมากนัก ในถ้ำมีฝุ่นเยอะ เพราะหลวงพ่อไม่สามารถเดินขึ้นมาได้ จึงไม่มีใครมาดูแล บนภูเขามีต้นเอื้องผึ้งจันทร์ผา เจริญเติบโตดี
ถ้าใครที่ชอบท่องเที่ยววัด ที่นี่ก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งของเชียงรายที่น่ามาเก็บภาพ
เราเริ่มเดินทางจากห้าแยกพ่อขุนมังราย ออกนอกเมืองไปทางอำเภอแม่สาย พอข้ามสะพานแม่น้ำกกก็เลี้ยวซ้ายตรง 4 แยกที่มีร้านของฝากอยู่ตรงหัวมุม เลี้ยวซ้ายแล้วตรงไปเรื่อยๆ จะผ่านตลาดบ้านใหม่ ไปเรื่อยๆ จนถึง 3 แยกด้านในก็เลี้ยวซ้าย ไปอีกไม่เกิน 1 กิโลเมตรจะเจอ 4 แยกบริเวณตลาดเล็ก ให้เลี้ยวขวา ซึ่งถ้ามาจากทางที่บอกนี้จะมองไม่เห็นป้ายบอกทางเข้าถ้ำ เพราะป้ายติดไว้บอกกับทางที่สวนมา
หลังจากเลี้ยวเข้ามาทางถ้ำแล้วก็เข้าไปอีกซัก 2 กิโลเมตร ถึงจะเจอถ้ำตุ๊ปู่ มีหลวงพ่อจำวัดอยู่รูปเดียว หลวงพ่อรูปนี้เป็นอัมพฤกษ์มาตั้งแต่ปี 2551 เพิ่งจะเริ่มมาฟื้นตัวเมื่อไม่กี่ปีมานี้ หลังจากที่เราถวายปัจจัยแล้วเราก็ขอหลวงพ่อเดินขึ้นไปชมบนถ้ำ ทางขึ้นถ้ำค่อนข้างชัน แต่ไม่สูงมากนัก ในถ้ำมีฝุ่นเยอะ เพราะหลวงพ่อไม่สามารถเดินขึ้นมาได้ จึงไม่มีใครมาดูแล บนภูเขามีต้นเอื้องผึ้งจันทร์ผา เจริญเติบโตดี
ถ้าใครที่ชอบท่องเที่ยววัด ที่นี่ก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งของเชียงรายที่น่ามาเก็บภาพ
วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2556
โบราณสถานเวียงกือนา
เที่ยวคราวนี้ไปแบบสุ่มไป เราเลือกเส้นทางในจังหวัดเชียงรายเหมือนเดิม เริ่มออกเดินทางจากสี่แยกอีซูซุ เชียงราย แล้วมุ่งตรงไปทางอำเภอเวียงชัย ตรงไปเรื่อยๆ จนไปเจอเข้ากับป้ายบอกทางว่า "โบราณสถานเวียงกือนา" ด้วยความสนใจใคร่รู้ว่าเป็นอย่างไร เราก็มุ่งไปตามป้ายเลย
ไปถึงบริเวณโบราณสถาน เป็นบริเวณเปิดโล่ง ไม่ได้มีรั้วรอบขอบชิดมากมายเท่าใด เราขับรถเข้าไปในบริเวณ แล้วลงไปกราบนมัสการองค์พระที่ประดิษฐานอยู่หน้าต้นไทรขนาดใหญ่ ซึ่งถ้าตั้งใจมองไปยังต้นไทรก็จะพบพระพุทธรูปองค์ขนาดใหญ่ถูกต้นไทรโอบล้อมไว้จนแทบจะมองไม่เห็นพระพุทธรูปที่อยู่ด้านในเลย
โบราณสถานนี้เป็นสถานที่ติดแม่น้ำกก ซึ่งดูสวยงาม เย็นใจ มีลานกว้างปูกระเบื้องไว้ ถ้ามีการทำความสะอาดให้เรียบร้อย ก็เหมาะที่จะเป็นสถานที่สำหรับผู้คนที่ต้องการความสงบร่มเย็นได้อย่างดี
ไปถึงบริเวณโบราณสถาน เป็นบริเวณเปิดโล่ง ไม่ได้มีรั้วรอบขอบชิดมากมายเท่าใด เราขับรถเข้าไปในบริเวณ แล้วลงไปกราบนมัสการองค์พระที่ประดิษฐานอยู่หน้าต้นไทรขนาดใหญ่ ซึ่งถ้าตั้งใจมองไปยังต้นไทรก็จะพบพระพุทธรูปองค์ขนาดใหญ่ถูกต้นไทรโอบล้อมไว้จนแทบจะมองไม่เห็นพระพุทธรูปที่อยู่ด้านในเลย
โบราณสถานนี้เป็นสถานที่ติดแม่น้ำกก ซึ่งดูสวยงาม เย็นใจ มีลานกว้างปูกระเบื้องไว้ ถ้ามีการทำความสะอาดให้เรียบร้อย ก็เหมาะที่จะเป็นสถานที่สำหรับผู้คนที่ต้องการความสงบร่มเย็นได้อย่างดี
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)