วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555

วัดฝั่งหมิ่น (Wat Fang Min)

นานหลายวันแล้วไม่ได้ไปเที่ยววัด วันนี้เลยชักชวนกันไปเที่ยววัดกันซะหน่อย

วัดฝั่งหมิ่นเป็นวัดที่ผู้เขียนไปมาแล้วหลายครั้ง เพราะคณะญาติเป็นศรัทธาวัดนี้ เลยได้รู้จักตั้งแต่เด็กๆ แต่เมื่อก่อนยังไม่ค่อยสนใจเรื่องวัดเท่าไหร่ เลยได้แค่มาวิ่งเล่นไปวิ่งเล่นมา มาครั้งนี้เลยเหมือนได้มาวัดนี้อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก

บริเวณวัดเงียบสงบ อุโบสถปิด เราเลยเดินชมรอบๆ เริ่มจากอาคารหลังเล็กข้างอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูป หลังอุโบสถเป็นพระธาตุ มีพระประจำวันเกิดอยู่ 4 ทิศ



หลังจากสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วพวกเราก็จะเดินทางกลับ แต่รู้สึกเหมือนยังขาดบางสิ่งบางอย่าง แล้วบังเอิญเหลือบไปเห็นแผนที่วัด เลยเดินไปดูเผื่อว่าเราจะตกหล่นอะไรตรงไหน เลยพบว่านอกจากบริเวณในวัดแล้ว ที่ติดๆ กันนี้ยังเป็นโรงเรียนสอนพุทธศาสนาให้แก่พระและเณรอีกด้วย และมีโรงแกะสลักหยกอยู่ในมุมมืด ช่างฝีมือแกะสลักเป็นคนจีนที่พูดไทยได้ไม่กี่คำ การคุยกันเลยเป็นภาษาท่าทางซะมากกว่า ฝีมือของช่างถือว่ามีฝีมือมาก งานพุทธศิลป์ที่ออกมาจึงดูงดงาม อ่อนช้อย เดินเลยจากโรงแกะสลักไปจะพบกับศาลาพระแม่กวนอิม ศาลาพ่อปู่ฤาษี เจดีย์ประจำวันเกิด และพระธาตุเก่าแก่

หลังจากสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์จนครบแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางกลับ


วัดฝั่งหมิ่นอยู่บริเวณในตัวอำเภอเมือง หากใครอยากเยี่ยมชมก็เชิญได้เลย เดินทางจากห้าแยกพ่อขุนเม็งรายมุ่งหน้าไปทางแม่สาย ข้ามสะพานแม่น้ำกก เลี้ยวขวาตรงแยกไฟแดงที่ 2 ไปไม่ไกลก็จะเจอป้ายวัดฝั่งหมิ่นเอง

ลองไปวัดเวลาที่ไม่มีความทุกข์ดูบ้าง เราจะได้มีความสุขในอีกรูปแบบหนึ่งเลย

เขียนโดย มัชฌิมา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น